เรียกว่าเปิดตัวได้อย่างร้อนแรงและกลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง สั่นสะเทือนแวดวงเทคโนโลยีทั่วโลก สำหรับ “Chat GPT” หรือ “ระบบแชตบอตปัญญาประดิษฐ์” ที่สามารถตอบข้อความและสื่อสารกับมนุษย์ได้อย่างฉลาดและเป็นธรรมชาติ แถมยังพกพาทักษะความสามารถระดับสูง เช่น ตอบคำถามยาก ๆ เขียนบทความ ไปจนถึงให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตจนเปรียบเหมือนมีผู้ช่วยแสนอัจฉริยะอยู่ข้างกายเลยทีเดียว ตอนนี้ใครกำลังสับสนว่า เราควรหนาว ๆ ร้อน ๆ กับความฉลาดของ AI (ที่อาจจะ) มาแทนที่มนุษย์ทำงานหรือไม่? ไปทำความรู้จักเจ้าแชตบอตไปพร้อมกันกับ “Chat GPT คืออะไร? ทำไมคนทำงานถึงต้องรู้จัก”
ทำความรู้จัก Chat GPT เทคโนโลยีที่คนยุคใหม่จำเป็นต้องรู้
“Chat GPT” ผู้ช่วย (งาน) อัจฉริยะที่กำลังเขย่าโลก
“Chat GPT” คือ แชตบอตปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาขึ้นในปี 2015 โดยบริษัท OpenAI ศูนย์วิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่หวังผลกำไรและมุ่งเน้นเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ (ซึ่งเคยมี อีลอน มัสก์ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง ก่อนจะถอนตัวลาออกไปในปี 2018) ปัจจุบัน
โปรเจกต์นี้ได้รับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีจาก Microsoft และบรรดาผู้มีชื่อเสียงแห่งแวดวงไอทีมากมาย ความสามารถหลัก ๆ ของแชตบอตสุดล้ำนี้คือ การตอบคำถามและการเขียนข้อความด้วยการใช้ระบบ AI ที่ได้รับการเรียนรู้และจดจำข้อมูลมหาศาล (Big Data) ซึ่งทาง OpenAI ให้ข้อมูลไว้กว้าง ๆ ว่ามาจากหนังสือ เว็บไซต์ต่าง ๆ รวมทั้งวิกิพีเดีย มาประมวลผล เพื่อหาคำตอบและสื่อสารกับมนุษย์เราได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งความฉลาดของ Chat GPT ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกเหมือนกำลังคุยหรือขอข้อมูลกับมนุษย์จริง ๆ นอกจากจาก
การโต้ตอบสื่อสารแล้ว เจ้าแชตบอตนี้ยังมีทักษะขั้นสูง อาทิ การเขียนบทความ เขียนงานวิชาการ เขียนโปรแกรม คำนวณสูตรคณิตศาสตร์ แต่งกลอนและบทกวี ไปจนถึงให้ไอเดีย
ใหม่ ๆ และให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตได้อีกด้วย
ทำไมใคร ๆ ก็อยากใช้ “Chat GPT”
แม้โลกของเราจะได้รู้จักกับแชตบอต AI มาแล้วหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Siri จาก Apple, Alexa จาก Amazon, Google Assistant จาก Google ไปจนถึง SimSimi ที่เคยฮิตสุด ๆ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว แต่ความโดดเด่นของ Chat GPT ที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากลองใช้และกลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีคนใช้มากกว่า 1 ล้านคน ในเวลาเพียง 5 วัน นับตั้งแต่เปิดตัวนั้นอยู่ที่ความฉลาดและความสามารถที่ได้รับการพัฒนาล้ำหน้าแชตบอตอื่น ๆ ไปไกล เพราะสามารถประมวลผลคำตอบและทำงานยาก ๆ ให้เราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องการหาข้อมูลมาเขียนบทความหรือเรื่องสั้นเกี่ยวกับบุคคลในประวัติศาสตร์ เพื่อเชื่อมโยงถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน Chat GPT ก็สามารถรวบรวมข้อมูลและร้อยเรียงออกมาให้เราได้ทันที ด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติ มีความสมเหตุสมผล และมีความเป็นมนุษย์สูง
นอกจากนี้ Chat GPT ยังเป็นแพลตฟอร์มสนทนาที่ใช้งานง่าย โดยมีเพียงกล่องแชตให้เราเริ่มต้นสื่อสารหรือถามคำถามกับ AI และรอคำตอบที่ผ่านการประมวลผลได้เลย แถมยังเปิดให้ใช้งานได้ฟรี ๆ (แต่ด้วยความร้อนแรงจากจำนวนผู้ใช้งานที่มากเกินไป ตอนนี้จึงมีการเปิดตัว “Chat GPT Plus” แชตบอตผู้รู้ใจแบบเสียเงินรายเดือน เริ่มต้นที่ 20 ดอลลาร์ฯ ในสหรัฐอเมริกานำร่องไปแล้ว เพื่อให้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอคิว และสามารถใช้ฟังก์ชันพิเศษใหม่ ๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาได้)
คนทำงานต้องรู้ไว้ เมื่อ “Chat GPT” อาจมาแทนที่เราแบบไม่รู้ตัว
หลังจากความนิยมพุ่งแรงแซงทุกโค้งแบบนี้ ไม่เพียงความตื่นเต้นกับการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และความคาดหวังถึงความก้าวหน้าของนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้าเท่านั้น หากแต่หลายฝ่ายก็เริ่มเกิดความกังวลใจกับความฉลาดที่อาจก่อให้เกิดปัญหาของ Chat GPT ซึ่งกำลังจะมา “แทนที่” มนุษย์จริง ๆ
จนเหล่าคนทำงาน (บางอาชีพ) อาจต้องเป็นฝ่ายสูญเสียตำแหน่ง เพราะโดนแชตบอตอัจฉริยะเข้ามาทำงานแทนในที่สุด
แม้ความสามารถของ Chat GPT จะล้ำหน้ากว่าแชตบอตไหน ๆ ที่เคยถูกคิดค้นขึ้นมาจนกลายมาเป็นผู้ช่วยข้างกายในฝันของใครหลายคนด้วยทักษะอย่างการเขียนเรียงความระดับมหาวิทยาลัยหรือเขียนโค้ดโปรแกรมที่ซับซ้อนอย่าง Python ได้ แต่อันที่จริงแล้ว
Chat GPT ยังคงมีข้อจำกัดและความผิดพลาดในการประมวลผลข้อมูลพอสมควร ทั้งการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เนื้อหาที่กำกวม รายละเอียดที่ไม่จำเป็น และการเชื่อมโยงข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ ข้อบกพร่องเหล่านี้จึงยังทำให้เราไม่อาจพึ่งพาแชตบอตปัญญาประดิษฐ์นี้ได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตามหลาย ๆ สายงาน (โดยเฉพาะแวดวงนักเขียน นักวิชาการ และศิลปิน)
ก็อาจยังหนาว ๆ ร้อน ๆ เพราะก็ไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่าในอนาคตจะถูก AI แย่งงานไปจริง ๆ หรือไม่ หากแต่สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนทำได้ก็คือ การตระหนักและเห็นคุณค่าความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของเหล่านักผลิต ผู้สร้างผลงานต่าง ๆ และไม่ดึงเอาความฉลาดของ AI มาให้เป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์และละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นนั่นเอง นอกจากนี้ การพยายามพัฒนาทักษะ ความรู้ และความสามารถของตัวเองก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่เหล่าคนทำงานไม่ควรมองข้าม เพราะไม่ว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะก้าวหน้าไปขนาดไหน ถ้ามนุษย์เราพัฒนาขีดความสามารถควบคู่ไปด้วยแล้ว การถูกแย่งงานและถูกแทนที่โดย AI ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดขึ้นได้ในเร็ววันนี้
ใครทำความรู้จักแชตบอต Chat GPT แล้วอยากเพิ่มระดับความสามารถด้วยการทำงานในตำแหน่งหรือสายงานใหม่ ๆ ลองเข้าไปค้นหากันได้เลยที่ www.jobtopgun.com หรือจะไปอ่านรีวิวบริษัทชั้นนำต่าง ๆ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้ที่ www.yousayhrsay.com